วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

ผิวแตกลาย

 ผิวแตกลาย


ผิวแตกลาย เป็นปัญหาหนึ่ง ที่คนที่ลดน้ำหนัก จะเจอกัน ซึ่งเป็นปัญหา ที่แตกต่างไปจาก ปัญหาของเซลลูไลท์ ที่เคยพูดกันไปแล้ว ปัญหาของผิวแตกลาย เป็น ปัญหา จากการยืด และ หดของคอลลาเจน ในชั้นหนังแท้ สามารถ เกิดได้ทุกคน ทุกเพศทุกวัย แต่ปัญหา มักจะเกิด กับ หญิงตั้งครรภ์ และ คนที่ลดน้ำหนัก ไม่ว่า จะมาจากผิวหนังที่ยือ หรือ หดตัว ล้วนแต่ทำให้เกิดผิวแตกลายได้ด้วยกันทั้งสิ้น

ลักษณะ ที่เรียกว่า ผิวแตกลาย คือริ้วแผลเป็น มีหลายสี แรกๆเป็นสีแดง มีการอักเสบใต้ผิว มีเส้นเลือดมาเลี้ยง เป็นสีแดง ทิ้งไว้นานๆจะยุบตัวลงไป ทิ้งไปนานๆจะเป็น สีขาว




สาเหตุการเกิดผิวแตกลาย

1.พันธุ์กรรม เวลามีการยืดตัวของผิว เวลา ยืดตัวของกล้ามเนื้อ ผิวหนังเร็วๆ ก็เกิดเป็นผิวฉีกขาดอยู่ด้านใน เป็นได้ทุกเพศทุกวัย มีการขยายตัว หรือ หดตัวก็ได้

2.เกิดจากกลุ่มโรคบางโรค เช่นโรคที่มีสเตียรอยด์ อยู่ในร่างกายเยอะ เช่น คุชชิ่งซินโดรม (Cushing s Disease ) คุชชิ่ง ซินโดรม เป็นสัญญาณบอกว่าในร่างกายมีระดับคอร์ติโคสเตรอยด์สูงเป็นเวลานาน

3.ใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์เยอะๆ พอใช้ไปนานๆ สเตรียรอยด์จะทำให้ผิวบางลง สารสเตียรอยด์ทำให้ผิว ขาวจริง แต่ก็ขาวไม่นานก็จะกลับมา เหมือนเดิมแต่ทำให้ผิวบางลง

วิธีรักษา อาการแตกลาย ต้องทราบให้แน่ก่อนว่า ปัญหาแตกลายมีผลมาจาก สิ่งใด มาจากการยืด หด ของผิวหนัง หรือ ปัญหา อื่น เช่น การใช้ยาสเตียร์รอยด์เป็นเวลานานๆ ปัญหาเนื้องอก ที่ทำให้การหลั่งฮอร์โมนผิดปกติ แล้วจึงค่อยมารักษาได้อย่างถูกวิธี

วิธีการรักษา อาการแตกลาย

 1.ส่วนใหญ่จะเป็นครีมกระตุ้นคอลลาเจนระดับเซลล์จริงๆ คือกลุ่ม วิตามิน เอ (retinoic acid)แลคติโนอิคแอซิด

2.ทำให้สิ่งแวดล้อมของเซลล์ทำงานดีขึ้น เช่น สารประกอบที่ให้ซ่อมแซมผิวดีขึ้น เช่น
วิตามินอี

3.การใช้การ กลอผิว ด้วยผงอลูมินัมออกไซส์  ต้องทำให้เกิดมีแผล มีการกระตุ้นมากพอ

4.ใช้สารกลัดผลไม้ ที่ใช้ในการรักษาสิว ต้องดูการกระตุ้นที่มากพอ

5.เลเซอร์ และ คลื่นความถี่วิทยุ

7.การใช้ Growth Factor โดยได้มาจากเลือด หรือ ไขมัน หรือ สเต็มเซล์ มาทำให้เกิดแผล แล้วใส่สารพวกนี้เข้าไป แล้วกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่

(Growth Factor คือ สารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในร่างกายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด สามารถกระตุ้นให้เซลล์มีการเพิ่มจำนวน การเจริญเติบโต และพัฒนาการของเซลล์ได้)


การรักษา แผลแตกลาย อาจแบ่งได้ 3 ระยะ ดังนี้คือ

1.ช่วงป้องกันการเกิด ของปัญหาผิวแตกลาย ทำได้เพียงแต่เพิ่มความชุ่มชื้น และ เพิ่มคอลลาเจน ให้กับผิว ล่วงหน้า ก่อนที่จะเกิดการแตกลาย

2.ในช่วงที่เริ่มเป็นแผลแตกลาย ใหม่ แผลจะมีลักษณะเป็นสีแดง สามารถรักษาด้วยตามอาการจากมากไปหาน้อย ได้โดย
  
    2.1 หากเป็นน้อย ก็เริ่มจากการทายา ในกลุ่ม วิตามินเอ (retinoic acid) แลคติโนอิคแอซิด เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ อิลลาสติน ให้กับผิว ได้มากขึ้น
  
   2.2 หากเป็นมาก ก็อาจจะใช้ การกลอผิว ช่วย โดยอาศัย ผงอลูมินัมออกไซส์ กระตุ้นให้เกิดแผลเล็กๆตลอดเวลา หรือ จะเลือกใช้ การลอกผิว ในแบบการทำ เบบี้เฟส ก็สามารถทำได้ เพื่อกระตุ้นการสร้างขึ้นใหม่ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ เลเซอร์วีบีม เพื่อเพิ่มการรักษา และป้องกันไม่ให้เป็นแผลเก่า  ซึ่งให้ผลดีในการรักษามากกว่าการปล่อยให้เป็นแผลเก่า แล้วค่อยมารักษาทีหลัง

3.การรักษา แผลแตกลาย ที่เป็นแผลเก่า
การรักษาแผลเป็นเก่า ต้องใช้ เลเซอร์ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ เลเซอร์ ปรับผิวไปด้วย เช่นกลุ่มเลเซอร์คูลทัช cooltouch laser กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และ ปรับสภาพผิว ไปด้วย การใช้เลเซอร์เกลี่ย ให้มีการสร้างคอลลาเจนใหม่มากขึ้น การใช้ fractional technology จากเดิมที่ จะทำลายไปทั่วแต่จะทำลายเป็นเฉพาะจุด ให้มีการ หายเร็วขึ้นการกระตุ้นโดยการทำลายหนังแท้ส่วนล่างเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มากขึ้น แต่การยิงเป็นจุดๆ จะทำให้หายเร็วขึ้น ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน มีการใช้มากในปัจจุบัน

สำหรับแผลแตกลาย เป็นปัญหา ของผิวหนัง ที่เกิดขึ้น จากการยืด หด ของผิวหนัง การขาดคอลลาเจน และ อิลลาสติน การเกิดเนื้องอก ที่ทำให้ฮอร์โมนของร่างกายผิดปกติ รวมทั้งปัญหาทางพันธุ์กรรมด้วย ผิวแตกลาย เป็นปัญหา ที่ป้องกันได้ยาก แต่ก็ยังสามารถรักษาได้ 

ขอบพระคุณครับ

Rin NaKaI