วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Lean body mass Body fat เปอร์เซ็นไขมัน

Lean body mass คือ น้ำหนักของ อวัยวะภายใน มวลกล้ามเนื้อ
กระดูก น้ำ และ แร่ธาตุต่างที่รวมอยู่ในร่างกาย แต่ไม่รวมน้ำหนัก ไขมัน

Lean body mass  นั้นเปรียบได้กับตาชั่ง ที่ จะแปรผันสวนทางกัน ระหว่าง ไขมัน และกล้ามเนื้อ เมื่อสิ่งใด มากขึ้น อีกสิ่งก็ต้องย่อมลดลงไป ดังเช่น น้ำหนักของไขมัน ที่เพิ่มขึ้น ก็จะไปแทนที่ กล้ามเนื้อ ถ้ากล้ามเนื้อ เพิ่มขึ้นก็จะเข้าไปแทนที่ ไขมัน โดยที่น้ำหนักตัวเท่าเดิม

Body fat เป็น ดัชนีตัวหนึ่ง ที่เป็น ตัวชี้ ที่บ่งบอกว่า คนไหนอ้วน หรือผอม โดย ดูจาก ปริมาณ
ไขมันที่สะสมในร่างกาย ถือได้ว่าเป็นตัววัด ที่เป็นจริงมากกว่า การ วัดเอาจากตัวเลขที่ปรากฏบนตาชั่ง
ไขมันที่สะสม อยู่ในร่างกายนั้น เป็นสิ่งที่ บ่งบอก ได้อย่างแท้จริงว่า เราอ้วนหรือผอม

เปอร์เซ็นไขมัน คือ อีกตัวชี้ว้ดอีกตัวหนึ่ง ที่จะบอกได้ว่า มีปริมาณสะสมของไขมันคิดเป็น% แล้วมีอยู่ในใดเมื่อเที่ยบกับน้ำหนักตัว ทั้งหมด 100 %

สำหรับในคนที่ลดความอ้วน ผิดวิธี โดย ใช้การวัดเอาจากตัวเลขบนตาชั่ง แต่ไม่ได้คำนึงถึง body fat
และ %ไขมัน ที่สะสมอยู่ในร่างกาย อาจจะทำให้ การลดน้ำหนัก เป็นเพียงการลด น้ำ และ กล้ามเนื้อ รวมถึงองค์ประกอบ อื่นๆในร่างกาย แทนการ ลดไขมัน ซึ่งผลที่ได้คือการที่ น้ำหนักตัวที่ลดลง แต่ก็ยังคง อ้วนอยู่ เนื่องจาก สิ่งที่ลดลงไป คือ น้ำ และกล้ามเนื้อ  ยกตัวอย่างนาย a ที่มีน้ำหนัก 100 กิโล มี %ไขมัน 20 แล้วลดน้ำหนักลงไป เหลือ 80 กิโล แต่ น้ำหนักที่ลดลงไปนั่นเป็นเพียงน้ำ และกล้ามเนื้อ หากนำมาคำนวณ %ไขมัน เพื่อที่จะทราบ ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกาย หรือ body fat ซึ่งสามารถคำนวนได้ดังนี้ คือ
(100x %ไขมัน ) /น้ำหนักตัวปัจจุบัน = ไขมันสะสม หรือ body fat  ผลที่ได้คือ (100x20) /80 = 25
นั่นก็หมายความว่า  body fat ของนาย a ก็เพิ่มขึ้น จากเดิมไขมันสะสม 20 กิโล เป็นไขมันสะสม 25 กิโล โดยที่ เปอร์เซ็นไขมัน เท่าเดิม

อย่างที่บอกไปแล้วว่า ตามหลัก Lean body mass ซึ่งเปรียบเที่ยวได้กับ ตาชั่ง ที่หาก มวลของกล้ามเนื้อที่หายไป จะถูกแทนที่ด้วย ไขมันแทน ซึ่งก็แปลว่า นาย a ไม่ได้ ผอมลง แต่ในทางกลับกัน กลับสะสมไขมันที่มากขึ้น

waigth loss คือ การลดน้ำหนัก บนตาชั่ง ซึ่งเป็นการลด ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ไขมัน กล้ามเนื้อ และองค์ประกอบอื่นๆเพื่อให้ตัวเลขที่ปรากฏบนตาชั่ง น้อยลง

fat loss คือ การลดเฉพาะ น้ำหนักไขมัน ที่สะสมอยู่ในร่างกาย

ดังนั้นในการลดน้ำหนักที่ถูก ก็หมายถึง การทำ fat loss เพื่อลด % ไขมันที่สะสมในร่างกาย เพื่อให้ได้ผลลัพย์ ที่จะปรากฏขึ้นมาคือ สัดส่วนที่ถูกต้อง รูปร่างที่ดี ไม่ใช่ว่า น้ำหนักลง แต่ยังคงตัวเหลว ตัวนิ่ม ไม่ได้สัดส่วนอยู่ แม้น้ำหนัก บนตาชั่งจะลดลงไปแล้วก็ตาม

body fat หรือ ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกาย สามารถ แบ่งได้ เป็น 2 ประเภท คือ

1. Visceralfat วิเซอรเรียลแฟส ไขมันสะสม ใต้ผิวหนัง

2. Subcutaneous fat ซัพคูเทนเชียลแฟส ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายในอวัยวะภายใน ซึ่งเมื่ออายุที่มากขึ้น ก็จะมีผลให้ มีไขมันแทรกอยู่ในกล้ามเนื้อ มากขึ้น

วิธีคำนวนเปอร์เซ็นไขมัน

ผู้หญิง Lean Body Mass = (( น้ำหนักตัว x2.2 )x 0.732) + 8.987 +( รอบข้อมือหน่วยนิ้ว/ 3.14 ) + ( รอบเอวบริเวณสะดือหน่วยนิ้ว x 0.157) + ( รอบสะโพกหน่วยนิ้ว x 0.249 ) +(รอบต้นแขนหน่วยนิ้ว x 0.434)

(Body Fat ไขมันสะสม)  = ( น้ำหนักตัว x 2.2 ) - LBM      

เปอร์เซ็นไขมัน = (Body Fat x 100) / ( น้ำหนักตัว x 2.2 )

ผู้ชาย Lean Body Mass = ((น้ำหนักตัว x2.2)x 1.082 + 94.42) - ( รอบเอวบริเวณสะดือหน่วยนิ้ว x 4.15 )

(Body Fat ไขมันสะสม)  = ( น้ำหนักตัว x 2.2 ) - LBM

เปอร์เซ็นไขมัน = (Body Fat  x 100) / ( น้ำหนักตัว x 2.2 )

สำหรับสูตรที่ ให้ไป อาจจะไม่ได้ถูกต้อง 100% เพราะเป็นแค่ การคำนวณ คร่าวๆ หากจะได้ผลจริงต้องมีการวัด วิธีอื่่นๆ เช่น

  • การชั่ง ในน้ำ หรือ ที่เรียกว่า ไฮโดรสเตติกเทสติ้ง ซึ่งเป็นวิธีการวัด ที่มีความแม่นยำที่สุด แต่ ต้องวัดโดยผู้เชียวชาญ และสถานที่ต้องมีความพร้อม เช่น ที่ มหาลัยมหิดล เป็นต้น
  • การใช้ Cliper  หนีบ วัดเปอร์เซ็น ไขมัน ซึ่งจะมีตำแหน่งที่แตกต่างกัน ใน ชาย และหญิง
  • การวัดด้วย เครื่อง ที่จะปล่อยกระแสไฟฟ้า อ่อนๆ เข้าไปในร่างกาย โดยต้องวัดควบคู่กับความสูงเนื่องจาก เป็นการทวนกระแสไฟฟ้ากลับมา เพื่อการคำนวณ
  • การวัดโดยเปรียบเทียบจากรูปภาพ 

สำหรับในบทนี้ผมขอจบไว้เพียงเท่านี้ หวังว่า บทความนี้ จะสามารถทำให้ผู้อ่านเข้าใจ และนำไปใช้ เพื่อประโยชน์ ในการควบคุมน้ำหนัก อย่างถูกต้อง โดยไม่มัวแต่ มองตัวเลขบนตาชั่งอีก

ขอบพระคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น