ขอพูดถึงหนังสือ ยิ่งหิว ยิ่งสุขภาพดี ก่อนนะครับ
ยิ่งหิวยิ่งสุขภาพดี เป็นหนังสือ ที่เขียน โดย นายแพทย์ โยชิโนะริ นะงุโม (Yoshinori NaguMo) ที่แปลโดย คุณ พิมพ์รัก สุขสวัสดิ์ จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ วีเลิร์น
หนังสือพูดถึง เรื่องของ Anti Aning ชนิดหนึ่ง โดย ที่ว่าด้วย หลักการที่ว่า มนุษย์ นั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้ อดอาหาร ให้กินอาหารแต่น้อยมื้อ และการกินอาหารที่มากมื้อ นั้นทำให้สุขภาพ ไม่ดี แก่เร็ว ซึ่งอาจจะอธิบายตามหลักการวิทยาศาสตร์ ของหนังสือเล่มนี้ได้ดังนี้คือ
2.เมื่อกระเพาะอาหารรู้สึกตัวว่าหิว จะหลั่งฮอร์โมน เกรลิน (Ghrelin) ซึ่งผมเคยเขียนในบทนึง ไปแล้วว่า มันคือ ฮอร์โมนที่ จะสั่งให้ เราหิว และกิน โดยจะออกฤทธิ์ ที่ สมองส่วน ไฮโปทาลามัส (Hypothalamus) ซึ่งจะทำให้หิว แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะออกฤทธิ์ต่อต่อมใต้สมอง ทำให้หลั่ง Growth Hormone ด้วยเช่นกัน ซึ่ง ฮอโมน Growth Hormone เป็นตัวทำให้เรา หนุ่มสาวขึ้น ซึ่งก็มักจะ หลั่งเมื่อ เวลาเรานอนในตอนกลางคืน อย่างเต็มที่ ซึ่ง ฮอร์โมนตัวนี้ทำให้ เรา อ่อนเยาว์ลงนั่นเอง
3.ร่างกายคนเรา มีความสามารถ อยู่อันหนึ่ง ที่เรียกว่า ยีนเซอร์ทูอิน (Sirtuin) ซึ่งจะ ต่ออายุให้เรา หรืออีกชื่อนึงคือ อายุยืน อยู่ จากการทดลองกับสัตว์ หลายชนิด พบว่า เมื่อลดประมาณอาหารลง 40% ทำให้อายุยืนขึ้น 1.5 เท่า
4.เงื่อนไขการทำงานของ ยีนส์เซอร์ทูอิน คือ ต้องหิว มันจึงเริ่มทำงาน ยีนส์เซอร์ทูอิน จะสแกน ยีนส์ ในร่างกาย และ ค่อยๆซ่อมแซม ให้กลับคืนมา จากความผิดปกติ
5.( อันนี้ ผมเสริมเอง ) กระบวนการกินตัวเอง กระบวนการอดอาหาร หรือ กินอาหารน้อยมื้อ ทำให้ เกิดกระบวนการ กินเซลล์ ที่เสื่อมสภาพ ทำให้ ร่างกายเราแข็งแรงขึ้น ซึ่ง อยู่ในหลักการ อดอาหารแบบกำหนดช่วงเวลา ที่เรียกว่า Intermittent Fasting ซึ่งผมเคยได้เขียนมาแล้ว
ซึ่ง ก็เป็นสิ่งเดียวกับ ทฤษฎี กล่องดำ ที่ผมเคยได้ ฟังมา จากชายคนนึง ที่พูดถึงเรื่องนี้ เกี่ยวกับ อาหาร และการกินว่า อาหารการกินที่เรากินเข้าไปในร่างกายเรานั้น ร่างกายของเรา เป็นเหมือน กล่องสีดำ ที่ ปิดผนึกอย่างแน่นหนา อาหาร ก็คือพลัง ลองจินตนาการภาพว่า กล่องสีดำ ที่วางอยู่ในห้องมืด เราไม่รู้ว่า ขนาดของมัน ใหญ่ แค่ไหน แต่เราก็ อัด เอา อาหาร หรือพลังงานเข้าไป เรื่อยๆ ลองสมมุติว่า อาหารคือ ก้อนนุ่น หรืออะไรสักอย่าง ที่เราอัดลงไปเรื่อยๆ วันนึงกล่องมันก็จะทนไม่ได้ และ ปริแตกออกมา เพราะร่างกายของคนเรา คือ กล่องดำ ในห้องมืด ที่เราไม่ทราบได้ว่า ต้องการพลังงานเท่าไหร่จริงๆ คนตัวเล็ก คนตัวใหญ่ ต้องการพลังงานไม่เท่ากัน หัวใจ ทำงานไม่เท่ากัน หายใจ สั้น และหายใจ ยาว ก็ไม่เท่าไม่เท่ากัน ก็เหมือนกล่อง ในห้องมืด ที่จริงๆ เราไม่รู้ว่า มันขนาดเท่าไหร่ กินแค่ไหน แล้วสุขภาพดี แค่ นับ แคล มันไม่พอหรอกครับ การกิน แต่เนื้อ ที่บอกว่า ช่วย ทำให้เผาผลาญพลังงาน ได้มาก ก็จริง แต่ มันดีกับสุขภาพ ไม่จริง เพราะ ว่า ร่างกาย โดยเฉพาะกระเพาะทำงานหนัก พอทำงานหนักก็ดึงเลือด มาจากสมอง ในคน ที่ มีร่างกายใหญ่ เช่นเล่นเวต หรือ หัวใจ ทำงานไม่ดี เลือดไม่พอ หน้ามืด ขณะ ย่อยอาหาร ดังนั้นจึงบอกไม่ได้หรอกครับว่า กล่องสีดำในห้องมืดนี้ ขนาดความจุมันเท่าไหร่ นี่เป็นสิ่งที่ผมเคยฟังมา แล้วเอามาเรียบเรียงใหม่ กับทฤษฎี กล่องดำ
มาพูดถึง สิ่งที่ผมเคยทำบ้าง Intermittent Fasting การอดอาหารกำหนดช่วงเวลา ผมทำสิ่งนี้ มาตลอด ผมวิ่ง แทบทุกวัน บางปี ผมวิ่ง 365 วัน คือ วิ่งทุกวัน แล้วก็กินอาหาร อยู่ในกรอบ 8 ชั่วโมง คือ จะไม่กินเกินเวลา 8 ชั่วโมง ตามหลักของ Intermittent Fasting จะกำหนด ไว้หลายแบบ เช่น กินอาหาร 5 ชั่วโมง นอกนั้น 19 ชั่วโมง อดอาหาร ผมทำไม่ไหว ผมก็ปรับมาเป็น อดอาหาร 16 ชั่วโมง กิน 8 ชั่วโมง ผมก็จะกินอาหาร ได้ใน กรอบเวลานี้ นอกนั้น ผมไม่กินอะไร นอกจากน้ำ บางคนอาจถามว่า แล้วมันไม่ yoyo เหรอ ถ้าจะ คุมน้ำหนักวิธีนี้ ผมบอกเลยว่าไม่ เพราะ คุณ จะกินเท่าไหร่ก็ได้ ดังนั้น กินให้ จุ ไว้ก่อน คือ กินให้เกิน ที่คุณต้องได้รับต่อวันไว้ก่อน แล้ว ทีเหลือ ร่างกายมันจัดการเอง ผลที่ได้คือ ผมวิ่งดีขึ้น ร่างกายเบา และก็แข็งแรงมาก ทั้งที่ผมว่าผมก็อายุ 30 ปลายๆแล้วนะ แต่ผมก็ วิ่งได้ เร็วกว่าคนหนุ่ม และ วิ่งได้นาน วิ่งได้บ่อย ผมไม่เคย ป่วย เพราะการกิน อาหาร แบบนี้เลย แต่มาช่วงหลัง ผมมา เล่นเวต อยากเปลี่ยนแนว เปลี่ยนสาย ผมก็กินแบบนักกีฬาเวต คือ กิน หนักขึ้น ผมที่ได้คือ สุขภาพ แย่ลง แย่ลงกว่าก่อนมาก และ ปรากฏว่า เลือด และ ลม ที่ร่างกายมี มันไม่พอ เลี้ยงร่างกาย คำว่า เลือด ลม ไม่พอ อาจจะมีคนสงสัย มันคือ หลักการ
alicia ziegler
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น